ปลูกผมเจ็บไหม จะมีอาการอะไรข้างเคียงบ้าง
ปลูกผมเป็นทางเลือกในการทำให้ผมของคุณกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง ถือเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่ก็มีหลายคนยังไม่ได้ตัดสินใจทำ เพียงเพราะมีความกังวลใจว่า ปลูกผมเจ็บไหม มีราคาแพงไหม หรือว่าทำแล้วจะเห็นผลมากน้อยเพียงใด จึงยังไม่ได้รับการรักษาสักที ดังนั้นก่อนการปลูกผม ต้องศึกษาหารายละเอียดเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น
ปลูกผมเจ็บประมาณไหน
เมื่อถามคนที่ปลูกผมว่าปลูกผมเจ็บไหม ความรู้สึกของแต่ละคนย่อมมีแตกต่างกัน แต่แพทย์เราก็มีวิธีวัดที่เป็นมาตรฐาน เพื่อจะบอกว่าเจ็บประมาณไหน
การวัดระดับความเจ็บหรืออาการปวด (PAIN SCALE) ในทางการแพทย์มีหลายแบบ เช่น
- คะแนน 0-1 หมายถึง ไม่ปวดเลย
- คะแนน 2-3 หมายถึง ปวดเล็กน้อย
- คะแนน 4-5 หมายถึง ปวดปานกลาง
- คะแนน 6-7 หมายถึง ปวดค่อนข้างมาก
- คะแนน 8-9 หมายถึง ปวดมาก
- คะแนน 10 หมายถึง ปวดมากที่สุด
การปลูกผมจัดอยู่ในระดับเจ็บเล็กน้อย คะแนน 2-3 เท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบ ก็คงพอ ๆกับการทำฟัน หรือหัตถการผิวพรรณ เช่น การฉีด BOTOX การฉีด FILLER ฯลฯ แต่การปลูกผมใช้เวลาทำนานกว่า ผู้หญิงที่ปลูกผมมักจะอดทนต่อความเจ็บปวดได้ดีกว่าผู้ชาย
ผลข้างเคียงที่พบได้หลังการปลูกผม
-
อาการบวมที่หน้าหน้าผาก หรือที่หนังตา
เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด จะเริ่มเกิดขึ้นได้ในช่วง 1-3 วันแรก และจะเป็นมากที่สุดประมาณวันที่ 3 ต่อจากนั้นก็จะค่อย ๆยุบลง และหายไปได้เองประมาณ 7 วันหลังปลูกผม
-
เลือดออก (BLEEDING)
ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันแรกหลังการปลูกผม การที่มีเลือดออกเพียงเล็กน้อยถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณที่ปลูกผม (RECIPIENT AREA) และที่แผลด้านหลังบริเวณที่ไปเอากราฟมาปลูก (DONOR AREA)
-
สิว (PIMPLE)
ตรงบริเวณที่ปลูกผม อาจเกิดมีสิวขึ้นได้ตั้งแต่ 2-3 วันแรกหลังการปลูกผม สาเหตุเกิดจากต่อมไขมันไม่สามารถขับไขมันออกมาภายนอกได้ จึงเกิดการอุดตันของรูขุมขนและมีสิวเกิดขึ้น
-
กราฟผมหลุด (DISLODGED HAIR GRAFT)
หลังปลูกผมเสร็จใหม่ ๆ กราฟปลูกผมอาจหลุดออกได้ เพราะเกร็ดเลือดยังไม่แข็งตัวดีพอ และยังมีผลทำให้มีเลือดออกตรงจุดที่ฝังกราฟไว้ได้อีกด้วย จึงต้องคอยระวังอย่าเอามือไปสัมผัสบริเวณที่ปลูกผม
-
เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน (MOTION SICKNESS OR VOMIT)
คนไข้บางรายเกิดอาการเวียนหัวหลังการปลูกผม บางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
-
คันหัว (ITCHY)
อาการคันหัวหลังปลูกผมพบได้บ่อย และเป็นสัญญาณที่ดี บ่งบอกว่าแผลเริ่มแห้งดีแล้ว อาจพบได้ทั้งบริเวณด้านหน้าที่ปลูกผม และบริเวณด้านหลังที่ไปเอาเส้นผมมาปลูก
-
สะเก็ด (SCAB)
หลังปลูกผมบริเวณที่ปลูกจะเริ่มมีสะเก็ด (SCAB) ซึ่งจะมีลักษณะแข็งเป็นแผ่นสีแดง และสีจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม
-
ชาหนังศีรษะ (NUMBNESS)
อาการชาที่หนังศีรษะหรือด้านหลังของศีรษะ เกิดจากการฉีดยาชาและยาห้ามเลือด
-
แผลเป็น (SCAR)
การผ่าตัดปลูกผมย่อมมีแผลเป็นเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับวิธีปลูกผม จำนวนกราฟ และกระบวนการหายของแต่ละคน
-
ผมร่วงหลังปลูกผม (HAIR TRANSPLANT SHOCK LOSS)
หากคุณมีผมร่วงหลังปลูกผม หรือ SHOCK LOSS ก็ไม่ต้องตกใจหรือกังวล เพราะจะเป็นเพียงผมร่วงชั่วคราว SHOCK LOSS อาจเกิดได้ทั้งบริเวณที่ปลูกผม (TRANSPLANTED AREA) และบริเวณที่ไปเอาเส้นผมมาปลูก (DONOR AREA) เฉพาะส่วนที่เป็นเส้นผมเท่านั้นที่ร่วงหลุด แต่เซลล์รากผมยังอยู่ในหนังศีรษะ ไม่ได้หลุดร่วงตามออกมา อาการผมร่วงมักเกิดขึ้นประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการปลูกผม และจะหยุดร่วงไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ต้องรออีกประมาณ 2-3 เดือนหลังจากนั้น จึงจะมีเส้นผมงอกขึ้นมาใหม่
ข้อปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม
- นอนให้ศีรษะและลำตัวช่วงบนยกสูงอย่างน้อย 45 องศา เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการปลูก และหลังจากนั้นอาจเอนต่ำลงมาได้ แต่ยังคงให้ยกไว้จนครบ 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันภาวะบวมน้ำบริเวณหน้าผาก และรอบดวงตา
- หลีกเลี่ยงการถูกกระแทกบริเวณศีรษะ เช่น ขณะขึ้น – ลงจากรถ รวมถึงการตัดเล็บมือให้สั้น เพื่อป้องกันกราฟต์ผมหลุด
- งดการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วัน ภายหลังการปลูกผม หลังจากนั้นให้เริ่มด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มความหนักขึ้น ภายหลัง 1 สัปดาห์ อาจจะเริ่มออกกำลังกายหนักได้ ถ้าไม่เสี่ยงต่อการกระแทกที่ศีรษะ ภายหลัง 2 สัปดาห์ สามารถดำเนินทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
- เริ่มสระผมด้วยแชมพูบริเวณที่ปลูกผมได้วันที่ 2 หลังการปลูกผม โดยผสมน้ำแล้วใช้การรินจากขันหรือบีบผ่านฟองน้ำให้แชมพูไหลผ่านบริเวณที่ปลูกผมเบา ๆ แนะนำการสระผมวันละ 2 ครั้ง
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ 2-4 สัปดาห์
- เลี่ยงหรือป้องกันแสงแดด รวมทั้งงดการเข้าซาวน่าประมาณ 1 เดือน