ปลูกผม กราฟละ วิธีการปลูกผมแบ่งออกได้กี่แบบ

ก่อนที่ท่านจะเข้ารับบริการปลูกผมกับสถานบริการศัลยกรรมปลูกผม ท่านควรจะมาทำความรู้จักกับคำว่า “กราฟ” ก่อนว่าคืออะไร ซึ่ง กราฟ จะเป็นตัวกำหนดในเรื่องของราคาในการปลูกผมแต่ละครั้ง ซึ่งราคา ปลูกผม กราฟละ จะขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง เรามาดูกันดีกว่าค่ะ

กราฟ คืออะไร

กราฟ หมายถึง “กอผม” ซึ่งใน 1 กอผม จะประกอบไปด้วยเส้นผม 2 – 4 เส้น และใน 1 กอผม จะเท่ากับ 1 กราฟ

ชนิดของกราฟผม 4 ชนิด แบ่งตามจำนวนของเส้นผมที่มีอยู่ใน 1 กราฟ เช่น

กราฟผมชนิด 1 เส้น หรือ 1-HAIR GRAFT จะมีเซลล์รากผมเพียง 1 เซลล์ และมีเส้นผม 1 เส้น

กราฟผมชนิด 2 เส้น หรือ 2-HAIR GRAFT จะมีเซลล์รากผม 2 เซลล์ และมีเส้นผม 2 เส้น

กราฟผมชนิด 3 เส้น หรือ 3-HAIR GRAFT จะมีเซลล์รากผม 3 เซลล์ และมีเส้นผม 3 เส้น

กราฟผมชนิด 4 เส้น หรือ 4-HAIR GRAFT จะมีเซลล์รากผม 4 เซลล์ และมีเส้นผม 4 เส้น

กราฟปลูกผมเอามาจากไหน

  • ส่วนใหญ่นิยมนำกราฟผมมาจากเซลล์รากผมด้านหลังตรงบริเวณท้ายทอย เพราะเป็นเซลล์ผมถาวร (PERMANENT HAIR FOLLICLE) และเมื่อนำเส้นผมมาปลูก ก็จะดูเป็นธรรมชาติมากว่าการเอาขนจากส่วนอื่นของร่างกายมาปลูก
  • หนวด เครา
  • ขนหน้าอก
  • ขนรักแร้
  • ขนหน้าแข้ง ขนหัวหน่าว

บทความแนะนำ เนื้อใต้รักแร้ จากเว็บไซต์ Rattinan.com

วิธีการได้มาของกราฟผม

  • ถ้าเป็นวิธีปลูกผมแบบ FUE

แพทย์จะใช้เครื่องมือเจาะออกมาเป็นกราฟแต่ละตัว แล้วนำไปปลูกได้เลย การปลูกผมแบบ ROBOT ก็ใช้หุ่นยนต์หรือแขนกลปลูกผม เจาะออกมาเป็นกราฟแต่ละตัวเช่นเดียวกัน

  • ถ้าเป็นการปลูกผมแบบ FUT

แพทย์จะใช้การตัดเนื้อเยื่อที่มีเส้นผมออกมาเป็นแถบผม แล้วนำไปแบ่งแยกออกเป็นแต่ละกราฟด้วยกล้องจุลทรรศน์ ก่อนที่จะนำกราฟไปปลูก

ขั้นตอนการปลูกผม

วิธีการทำปลูกผม แพทย์จะย้ายเซลล์รากเส้นผม (HAIR FOLLICLE) จากบริเวณท้ายทอย (DONOR AREA) ซึ่งเป็นผมที่แข็งแรง และอยู่กับเราไปตลอดชีวิต มาปลูกยังบริเวณศีรษะล้าน (RECIPIENT AREA) ซึ่งแพทย์ต้องระวัง ไม่ให้เซลล์รากผมถูกตัดขาด ชอกช้ำ หรือตายในระหว่างการย้าย มิฉะนั้น ผมจะไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อย

นอกจากนี้ ต้องมีการจัดเรียงทิศทางของเส้นผมที่ปลูก ให้เป็นระเบียบ และปลูกให้ได้ความหนาแน่นพอสมควร ไม่มากหรือน้อยเกินไป เส้นผมที่ขึ้นใหม่จึงจะแลดูเป็นธรรมชาติ

การปลูกผมสามารถทำได้ในคลินิกปลูกผมที่มีเครื่องมือพร้อม เพราะใช้เพียงแค่ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ เพราะการผ่าตัดปลูกผมเป็นเพียงการผ่าตัดเล็กชนิดหนึ่งเท่านั้น เมื่อปลูกผมเสร็จ คนไข้ก็สามารถกลับบ้านโดยไม่ต้องโพกผ้าก๊อซ และยังสามารถสวมหมวกหรือใช้ผ้าคลุมศีรษะ (BANDANA) เพื่อปิดบังได้

บทความแนะนำ Gynecomastia จาก Rattinan.com

วิธีในการปลูกผมที่แพทย์นิยมใช้กันในปัจจุบันมี 2 แบบ ได้แก่

  • ปลูกผมแบบ FUE (FOLLICULAR UNIT EXCISION)

เป็นวิธีปลูกผม โดยการใช้เครื่องมือคล้ายสว่าน เจาะที่รูผมหรือขน และใช้คีมปากแหลมดึงเซลล์รากผม (กราฟผม) ออกมาเพื่อนำไปปลูก แผลที่เกิดจากการเจาะจะหายไปเองโดยไม่ต้องเย็บปิด แผลเป็นจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาว กระจายทั่ว ๆ ไป (SCAR SPREADING)

ข้อดีของ FUE

  • การเจาะและดึงผมออกมาทีละรู ฟังแล้วไม่ค่อยน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้ว FUE ก็เป็นการผ่าตัดเช่นเดียวกัน
  • แผลจะหายเร็วกว่าวิธี FUT
  • แผลเป็นลักษณะเป็นจุดมองเห็นไม่ชัด จึงเหมาะกับคนที่ชอบไว้ผมสั้น
  • ไม่ค่อยเจ็บแผลด้านหลัง การดูแลรักษาหลังปลูกผมง่ายกว่าวิธี FUT
  • สามารถนำเส้นขนจากส่วนอื่นของร่างกายมาปลูกได้ เช่น ขนหนวด ขนเครา ฯลฯ

ข้อเสียของ FUE

  • กราฟผมจะได้รับความเสียหายมากกว่าวิธี FUT เนื่องจากในขณะที่เจาะไม่สามารถมองเห็นรากผมส่วนที่อยู่ใต้หนังศีรษะ หากเจาะผิดทิศทาง ก็จะทำให้รากผมขาดได้
  • กราฟผม จะไม่ค่อยมีไขมันหุ้มรากผม เมื่อนำไปปลูกอาจจะไม่ขึ้นหรือขึ้นไม่ดี
  • เส้นผมที่ปลูกบางส่วนอาจจะอยู่ไม่ถาวร เนื่องจากมีการนำเซลล์รากผมที่ไม่ถาวรมาปลูกร่วมด้วย
  • แผลเป็นจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนกราฟ และจำนวนครั้งที่ปลูก
  • ปลูกผมแบบ FUT (FOLLICULAR UNIT TRANSPLANTATION)

เป็นการปลูกผมที่ใช้การตัดเนื้อผมออกมาเป็นแถบ แล้วนำเนื้อผมมาแยกออกเป็นกอผมหรือกราฟโดยกล้องจุลทรรศน์ แพทย์ต้องเย็บปิดแผล เมื่อแผลหายสนิท จะมีลักษณะเป็นเส้น (LINEAR SCAR)

  • ข้อดีของ FUT
  • FUT สามารถทำได้หลายครั้งกว่าที่เส้นผมบริเวณท้ายทอยจะบางลงจนสังเกตเห็นได้
  • จำนวนกราฟที่จะปลูกในแต่ละครั้ง สามารถปลูกได้สูงสุดถึง 3000 – 4000 กราฟ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้
  • ขณะย้ายรากผม แพทย์จะมองเห็นเซลล์รากผม (HAIR FOLLICLE) ได้อย่างชัดเจน ทั้งส่วนที่อยู่เหนือและใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์รากผมเสียหายน้อย กราฟผมจึงมีความสมบูรณ์
  • เวลาในการทำไม่นาน เส้นผมจึงขึ้นดี (เซลล์รากผมจะตายหากอยู่นอกร่างกายนานเกินไป) อัตราการขึ้นของเส้นผมมีมากกว่า 90 – 95%
  • ข้อเสียของ FUT
  • FUT ต้องตัดเนื้อผมออกมาเป็นแถบ
  • FUT ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนอาจจะเกิดความเสียหายต่อรากผมได้เช่นกัน หากทีมงานปลูกผมไม่ชำนาญพอ
  • ไม่เหมาะสำหรับคนชอบไว้ผมสั้นหรือตัดผมเกรียน เพราะอาจจะมองเห็นแผลเป็นได้
  • แผลหายช้ากว่าวิธี FUE

บทความแนะนำ ฉีดสลายไขมัน VS ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จาก Rattinan.com

บทสรุป

ปลูกผม กราฟละ ราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละสถานบริการว่าจะคิดราคาอย่างไร ซึ่งจะมีวิธีคิดดังนี้

ราคาต่อกราฟ x จำนวนกราฟที่ต้องใช้ในการปลูกผม

ซึ่งจำนวนกราฟจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์

โดยที่ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่แพทย์จะเป็นผู้คำนวณ ถูกหรือแพงจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่แต่ละคนต้องการจะปลูกผม และขึ้นอยู่กับสถานบริการแต่ละที่ ก่อนที่ท่านจะเข้ารับบริการท่านจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

DoctorHairs.com

เซรั่มปลูกผม ปลูกผม ปลูกผมถาวร ศัลยกรรมผม แก้ปัญหาหัวล้าน ผมบาง ศัลยกรรมปลูกผม ปลูกผมถาวร ตัวช่วยในการแก้ปัญหาหัวล้าน ผมบาง