เทคนิคปลูกผมแบบ fue ปลูกผม fue ไม่ขึ้น?

ปัญหาผมร่วง ผมบาง ก่อให้เกิดศีรษะล้านได้ จึงได้เกิดนวัตกรรมการปลูกผม (Hair Transplantation) เข้ามาช่วย ซึ่งเป็นหนึ่งในการศัลยกรรมผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ซึ่งการปลูกผมนั้นมี 2 แบบ คือ แบบ fue และแบบ fut ซึ่ง วิธี fue สามารถตอบโจทย์คนที่มีปัญหาเรื่อง ผมบาง ศีรษะล้าน แต่ไม่มีเวลาในการพักฟื้นเป็นอย่างมาก และในบางรายอาจใช้วิธีปลูกผม fue ไม่ขึ้น ซึ่งจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรเรามาดูกันค่ะ

ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ว่ามีขั้นตอนในการปลูกผมอย่างไร

การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

FUE มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า Follicular Unit Extraction เป็นวิธีในการย้ายเซลล์รากผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ จึงทำให้ไม่เกิดแผลเป็น ซึ่งแพทย์จะใช้เครื่องมือขนาด 0.8 – 1.2 มม. เจาะรูเส้นผมทีละรู ลงลึกถึงเซลล์รากผมด้านล่าง จากนั้น จะใช้คีมปลายแหลมดึงเซลล์รากผมออกมาจากหนังศีรษะ การปลูกผมด้วยวิธีนี้จะมีข้อดี ดังนี้

  • การปลูกผมแบบ FUE กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก (Microdissection) ไม่มีการเย็บแผล
  • คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลน้อยกว่าวิธี Strip เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะออกมา
  • สามารถนำเส้นขนจากบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขนบริเวณนั้น
  • ผู้เข้ารับบริการสามารถไว้ผมทรง Skin head ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลบนศีรษะ

ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

  • แพทย์จะใช้หัวเจาะแบบไฮบริดของ WAW FUE SYSTEM ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 1 มม. เพื่อเจาะเอารากผมออกมาจากบริเวณ Donor Area
  • รากผมที่เจาะออกมาจะถูกคัดแยกและจัดกลุ่มให้เหมาะสม แล้วนำไปเก็บไว้ในน้ำยา HypoThermosol ซึ่งถือว่าเป็นน้ำยาที่ดีที่สุดในโลกที่ออกแบบมาเพื่อการปลูกผมโดยเฉพาะ
  • แพทย์จะเติม ATP ซึ่งเป็นสารให้พลังงานแก่เซลล์เข้าไปด้วย ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนการเพิ่มสารอาหารให้กับเส้นผม เพื่อยกระดับให้ผลลัพธ์จากการปลูกผมดียิ่งขึ้นไปอีก
  • แพทย์จะนำรากผมที่เจาะออกมาไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งขั้นตอนนี้แพทย์จะใช้ Implanter Pen หรือที่เรียกว่าเทคนิค DHI แทนการใช้คีมเล็ก ๆ แบบดั้งเดิม เพื่อลดโอกาสสร้างความเสียหายให้กับรากผม

ข้อดีของเทคนิค FUE

ด้วยประสบการณ์ของแพทย์กับหนึ่งในหัวเจาะไฮบริดที่ดีที่สุดในโลกอย่าง WAW FUE SYSTEM จากประเทศเบลเยี่ยม แผลที่เกิดขึ้นบริเวณด้านหลังศีรษะจึงมีขนาดเล็กกว่า 1 มม. เมื่อคนไข้ไว้ผมยาวกว่า 3 มม. ก็ทำให้มองไม่เห็นแผลเป็นเหล่านั้น

ข้อดีของการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คือจะไม่มีรอยแผลเป็นแนวยาว 15 – 30 ซม. ซึ่งจะพบได้ในการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT

ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT

เทคนิคการปลูกผมแบบ FUT จะเป็นการผ่าตัดเอาหนังศีรษะออกมาทั้งชิ้น ซึ่งจะต่างจากการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE โดยการนำเอาผมออกจาด้านหลังศีรษะแล้วจึงนำมาแบ่งเป็นกราฟท์ใต้กล้องจุลทรรศน์ ซึ่งขั้นตอนที่เหลือก็จะเหมือนกับการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ทุกอย่าง

ข้อดีของเทคนิค FUT

ปลูกผมด้วยเทคนิค FUT นี้ คนไข้ไม่จำเป็นต้องโกนศีรษะก่อนผ่าตัด แพทย์จะนำรากผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะด้วยการผ่าตัด ซึ่งจะได้จำนวนรากผมที่มาก เทคนิคนี้จะเหมาะกับคนไข้ที่ต้องใช้จำนวนกราฟท์จำนวนมาก หรือมีแนวโน้มที่จะต้องปลูกซ้ำหลายรอบ และจะมีข้อเสียคือ จะมีแผลเป็นความยาว 15 – 30 ซม. ที่ด้านหลัง เมื่อทำการปลูกผมเสร็จแล้วควรไว้ผมยาวประมาณ 2 – 3 ซม. เพื่อเป็นการปิดแผลเป็นไม่ให้มองเห็น

ผลลัพธ์ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE และ FUT

การปลูกผมทั้งสองเทคนิคนั้นจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน โดยหลังจากปลูกผมไปแล้วสองสัปดาห์ ผมที่ปลูกจะหลุดร่วงไปก่อนเกือบหมด จากนั้นผมจะค่อยๆ ขึ้นในเดือนที่สี่ และขึ้นเต็มที่ในเดือนที่ 12-18 ผมที่ปลูกนี้คือผมธรรมชาติ คนไข้สามารถตัดสั้น ย้อม หรือดัดผมได้ตามปกติ แต่ในบางรายอาจใช้วิธีปลูกผม fue ไม่ขึ้นก็มี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพของหนังศีรษะของแต่ละบุคคล

บทสรุป

ปลูกผม fue ไม่ขึ้น ปกติแล้วมักจะไม่ค่อยเจอกับปัญหานี้ เนื่องจากสถานบริการแต่ละแห่งก็ต้องหาเทคนิคที่จะทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเกิดการประทับใจ แต่หากปลูกแล้วไม่ขึ้นจริง ๆ คงต้องแก้ปัญหาด้วยการปลูกให้ลูกค้าใหม่ ซึ่งก่อนที่ท่านจะเข้ารับบริการท่านจะต้องทำการศึกษาข้อมูลของการปลูกผมให้ละเอียด ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการ

DoctorHairs.com

เซรั่มปลูกผม ปลูกผม ปลูกผมถาวร ศัลยกรรมผม แก้ปัญหาหัวล้าน ผมบาง ศัลยกรรมปลูกผม ปลูกผมถาวร ตัวช่วยในการแก้ปัญหาหัวล้าน ผมบาง