10 อันดับ คลินิกตัดกระเพาะยอดนิยมมากที่สุดในปี 2024

การตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับปัญหาโรคอ้วนได้ การเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญและมีมาตรฐานสูงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามี 10 อันดับคลินิกยอดนิยมในปี 2024 ไหนบ้าง เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการได้ดีที่สุด

ตัดกระเพาะ คืออะไร

การตัดกระเพาะ (Bariatric Surgery) เป็นวิธีการผ่าตัดที่ใช้ในการรักษาโรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกินที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย การตัดกระเพาะมีหลายประเภทและแต่ละประเภทมีวิธีการและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป

ประเภทของการตัดกระเพาะ

การตัดกระเพาะมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้

• การตัดกระเพาะแบบ Sleeve Gastrectomy เป็นการตัดกระเพาะออกประมาณ 80% ทำให้กระเพาะอาหารมีขนาดเล็กลงและมีรูปร่างคล้ายท่อ การลดขนาดกระเพาะอาหารนี้ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและลดปริมาณการบริโภคอาหาร
• การตัดกระเพาะแบบ Roux-en-Y Gastric Bypass เป็นการตัดกระเพาะอาหารให้มีขนาดเล็กลงและเชื่อมต่อกับลำไส้เล็กโดยตรง ทำให้ลดการดูดซึมสารอาหารและแคลอรี่ วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงในการลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพ
• การตัดกระเพาะแบบ Adjustable Gastric Banding เป็นการใส่แถบยางรอบกระเพาะอาหารเพื่อแบ่งกระเพาะอาหารออกเป็นสองส่วน วิธีนี้สามารถปรับขนาดแถบยางได้ตามความต้องการของผู้ป่วย แต่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักน้อยกว่าวิธีอื่น ๆ

10 อันดับ คลินิกตัดกระเพาะยอดนิยม ปี 2024

1. รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Rattinan Medical Center )

รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Rattinan Medical Center ) มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ส่องกล้องและการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ที่นี่มีเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า Double Lock ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัดกระเพาะอาหาร เทคนิคนี้เน้นการควบคุมการผ่าตัดอย่างแม่นยำและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยมั่นใจในคุณภาพและผลลัพธ์ของการรักษา นอกจากนี้คลินิกยังมีการดูแลและติดตามผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลการรักษายังคงมีประสิทธิภาพในระยะยาว

2. โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram 9 Hospital)

โรงพยาบาลพระรามเก้าเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยี 4K ในการผ่าตัดแบบส่องกล้อง การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ศัลยแพทย์เห็นรายละเอียดภายในร่างกายอย่างชัดเจน ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูงและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน นอกจากนี้แผลจากการผ่าตัดจะมีขนาดเล็กและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลพระรามเก้าจึงสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ในเวลาที่สั้น ทีมแพทย์ยังมีการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการที่มีคุณภาพสูงสุด

3. โรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok Hospital)

โรงพยาบาลกรุงเทพมีชื่อเสียงในด้านการผ่าตัดกระเพาะอาหารด้วยมาตรฐานระดับโลก ทีมศัลยแพทย์ที่นี่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาที่มีความชำนาญในด้านต่าง ๆ ทำให้การรักษามีความครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูง โรงพยาบาลกรุงเทพยังได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่ยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัยในการให้บริการด้านการแพทย์ ด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โรงพยาบาลกรุงเทพจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดกระเพาะอาหาร

4. โรงพยาบาลสมิติเวช (Samitivej Hospital)

โรงพยาบาลสมิติเวชเป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานการรักษาระดับสากล ทีมแพทย์ที่นี่มีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดกระเพาะอาหารและมีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี การติดตามผลนี้ช่วยให้แน่ใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและมีผลการรักษาที่ดีที่สุด นอกจากนี้โรงพยาบาลสมิติเวชยังมีการให้บริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การตรวจร่างกาย การผ่าตัด และการดูแลหลังผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยได้รับการบริการที่มีคุณภาพและเป็นมิตร

5. โรงพยาบาลรามาธิบดี (Ramathibodi Hospital)

โรงพยาบาลรามาธิบดีมีศูนย์รักษาโรคอ้วนครบวงจร ที่นี่ให้การดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากมายในการรักษาโรคอ้วนและการผ่าตัดกระเพาะอาหาร โรงพยาบาลรามาธิบดีใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัยและมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยจะได้รับผลการรักษาที่ดีและปลอดภัย นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีการให้ความรู้และการให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพหลังการผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและรักษาสุขภาพได้ในระยะยาว

6. โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (Bangpakok 9 International Hospital)

โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนลมีวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร วิธีนี้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดบอลลูนจะช่วยลดความอยากอาหารและทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น ทีมแพทย์ที่นี่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคนิคนี้และมีการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีบริการที่เป็นมิตรและสะดวกสบาย ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในคุณภาพของการรักษา

7. โรงพยาบาลศิริราช (Siriraj Hospital)

โรงพยาบาลศิริราชเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทยที่มีการผ่าตัดกระเพาะอาหารด้วยเทคนิคการส่องกล้อง ทีมแพทย์ที่นี่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการรักษาโรคอ้วนและการผ่าตัดกระเพาะอาหาร โรงพยาบาลศิริราชยังมีเกณฑ์การรับผู้ป่วยที่มีมาตรฐานสากลเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาที่มีคุณภาพและปลอดภัย นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีการติดตามผลการรักษาและให้คำแนะนำด้านสุขภาพหลังการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถรักษาสุขภาพได้ในระยะยาว

โรงพยาบาลศัลยกรรมมาสเตอร์พีช (Masterpiece Hospital)

โรงพยาบาลศัลยกรรมมาสเตอร์พีชมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมความงามและการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ทีมแพทย์ที่นี่เน้นการให้บริการที่มีคุณภาพสูงและให้ผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชยังใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัด ทำให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัย นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีการให้คำปรึกษาและการดูแลหลังการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วและมีสุขภาพที่ดี

9. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad International Hospital)

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีชื่อเสียงระดับนานาชาติในด้านการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ทีมแพทย์ที่นี่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการผ่าตัดกระเพาะอาหาร รวมถึงการดูแลหลังการผ่าตัดที่มีคุณภาพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัดและการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วและมีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีการให้บริการที่ครบวงจรและสะดวกสบาย ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในการรักษา

10. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ (Chulalongkorn Hospital)

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ทีมแพทย์ที่นี่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัดเพื่อให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ยังมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดและให้คำแนะนำด้านสุขภาพหลังการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยสามารถรักษาสุขภาพได้ในระยะยาว นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีการให้บริการที่มีมาตรฐานและเป็นมิตร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจและมั่นใจในการรักษา

ข้อดีของการตัดกระเพาะ

การตัดกระเพาะมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคอ้วน ดังนี้

• การตัดกระเพาะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 50-70% ของน้ำหนักเกินภายใน 1-2 ปีหลังการผ่าตัด
• การตัดกระเพาะช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคข้อเสื่อม นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและเพิ่มความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
• การลดน้ำหนักและปรับปรุงรูปร่างช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองและลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับรูปร่างและน้ำหนัก

การเตรียมตัวก่อนการตัดกระเพาะ

การเตรียมตัวก่อนการตัดกระเพาะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ดังนี้

• ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมในการตัดกระเพาะและรับคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
• ผู้ป่วยควรตรวจสุขภาพอย่างละเอียดเพื่อประเมินความเสี่ยงและเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด
• ผู้ป่วยควรเริ่มปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายเพื่อเตรียมตัวสำหรับการลดน้ำหนักหลังการผ่าตัด

การดูแลหลังการตัดกระเพาะ

การดูแลหลังการตัดกระเพาะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืนและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ดังนี้

• ผู้ป่วยควรติดตามผลการรักษาและปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อประเมินความก้าวหน้าและรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพ
• ผู้ป่วยควรปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารให้เหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนาการ
• การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างยั่งยืนและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม

บทสรุป

การตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับโรคอ้วนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและมาตรฐานสูงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้